Perfume
By Aorkyu
+++++++++++++++
รอยยิ้มเพียงแค่เห็น อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตก็ได้
++++++++++++++
“คยูฮยอน” เสียงเพื่อน Account Executive ตัวเล็กหน้าตาน่ารักร้องตะโกนเรียก สไตลิสต์คนเก่งของเอเจนซี่ทำโฆษณาชื่อดังของเกาหลี
“มีอะไรเหรอทงเฮ ร้องซะกลัวคนทั้งบริษัทไม่ได้ยิน” คยูฮยอนหันไปตอบเพื่อนตัวดีที่วิ่งมาแต่ไกล
“แฮ่กๆๆๆๆ คยูฮยอน แฮ่กๆๆ”
“ใจเย็น พักก่อนค่อยๆพูดก็ได้” คยูฮยอนหันไปเห็นทงเฮหอบจากการวิ่งมาแต่ไกล แต่ดวงตาสิทำไมดูตื่นเต้นอย่างนี้
“คืองี้คยูฮยอน ชั้นจะได้ไปเสนองานให้กับบริษัทเชวกรุ๊ปหล่ะ ที่เค้าจะเปิดตัวโฆษณาน้ำหอมตัวใหม่นะ ตื่นเต้นจังเลย” ทงเฮเล่าไปเต้นไปรอบๆตัวคยูฮยอน
“รู้แล้วว่าดีใจ แต่ไม่ต้องเดินรอบตัวชั้นก็ได้ ปวดหัว...แล้วจะไปเสนองานเมื่อไหร่หล่ะ”
“บ่ายนี้ แล้วนายต้องไปเป็นเพื่อนชั้นด้วย”
“เฮ้ย ชั้นเกี่ยวอะไรด้วย ชั้นเป็นสไตลิสต์นะ” คยูฮยอนหันไปทำตาโตใส่ทงเฮ เรื่องเสนองานนี่เค้าไม่เกี่ยวนะ ปกติอยู่แต่งานเบื้องหลังเท่านั้นนะ
“ไม่ได้ให้ไปเสนองานแค่ไปเป็นเพื่อนเฉยๆๆนะ ไปเป็นเทพธิดานำโชคให้ชั้นหน่อย แค่นั่งรถไปเป็นเพื่อนก็ได้ นะนะ” ทงเฮหันออกเสียงออด เสียงอ้อนแก่คยูฮยอน ก็แหมจะให้ไปคนเดียว AE คนเก่งคนนี้ก็ฟ่อเหมือนกันนะ
“แต่ว่า”
“บ่ายนี้นายไม่มีงานแล้วชั้นก็ขอหัวหน้าให้แล้ว ห้ามปฏิเสธนะ” ทงเฮเกาะแขนแล้วกระตุกเพื่อนรัก นี่เป็นอ้อนวอนสุดชีวิตของทงเฮเลยก็ว่าได้
“ก็ได้ แต่ถ้าเสนองานไม่ผ่านห้ามโทษชั้นนะ” คยูฮยอนบอกทงเฮไว้ก่อนเลย เพราะว่าเดี๋ยวจะหาว่าเค้าเป็นตัวซวยทำให้เสนองานบริษัทในฝันของทงเฮไม่ผ่าน แต่ใครจะรู้หล่ะว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ต่างหากที่ทำให้ชีวิตของคนคู่นึงเปลี่ยนแปลงไป
+++++++++++
รถมินิคันหรูของทงเฮ ตอนนี้จอดอยู่หน้าบริษัทผลิตน้ำหอมชื่อดังของเกาหลี บริษัทที่อยู่ในเครือของเชวกรุ๊ป ทงเฮหันไปคว้าเอกสารมากมายจากในรถแล้วหันไปหาผู้ร่วมเดินทาง
“แน่ใจนะว่าจะรอในรถนะ ทำไมไม่เข้าไปด้วยกันหล่ะ”
“ไม่ดีกว่า นายไปเถอะ ขอให้ได้งานนะทงเฮ ไฟต์ติ้ง”อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้คยูฮยอนนั่งรอในรถดีกว่า
“ตามใจ ยังไงชั้นก็ต้องได้งานนี้อยู่แล้วหล่ะ” ทงเฮว่าแล้วคว้าเอกสารเดินเข้าบริษัทไป ไม่เหมือนคนที่ออดอ้อนเค้าที่บริษัทเลย จังหวะที่รอทงเฮคยูฮยอนก็นั่งมองนั่นมองนี่ไปตามท้องถนนที่รถราวิ่งกันขวักไขว่ ใบหน้าขาวสวยของคยูฮยอน นั่งอมยิ้มให้กับสิ่งรอบข้าง มองดูคนทำงานที่เดินข้ามถนนกันมากมาย เด็กน้อยที่วิ่งข้ามถนนแล้วสะดุดขาตัวเองแล้วล้ม คยูฮยอนสะดุ้งกับภาพที่เห็น ดวงตากลมโตตกใจ มือเรียวคว้าที่ประตูรถจะเปิดประตูเพื่อไปช่วยเด็กน้อย แต่ภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ก้มลงไปฉุดเด็กน้อยให้ลุกขึ้น แล้วกระซิบอะไรสักอย่างกับเด็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คนตัวบางร่างขาวที่นั่งอยู่ในรถถึงกับใจสั่น
ก๊อก ก๊อก เสียงคนเคาะกระจกรถทำให้คยูฮยอนต้องละจากภาพที่น่าดูหันไปตามเสียงที่เคาะ
“คยูฮยอนหยิบโบร์ชัวร์บริษัทให้หน่อยสิ ดันลืม ดีนะยังไม่ถึงเวลา” เป็นทงเฮนั่นเองที่กลับมาที่รถเพื่อเอา profile ของบริษัทไปเสนองานให้ลูกค้า เมื่อยื่นเอกสารให้ทงเฮแล้วคยูฮยอนหันกลับไปที่เดิมแต่ไม่พบชายคนที่ทำให้หัวใจของคนตัวบางนี้เคลื่อนไหวอีกแล้ว
+++++++++++++++
เลขาคิมคู่ใจของท่านประธานเชวเปิดดูตารางนัดหมายของท่านประธานแล้วนั่งอมยิ้ม วันนี้มีนัดช่วงบ่ายแค่นัดเดียว คือบริษัทเอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด บริษัททำโฆษณาชื่อดังของเกาหลี ที่จะเข้ามาเสนองานเท่านั้น ว่าแล้วเดินเข้าไปเคาะประตูท่านประธานเมื่อเห็นว่าตัวแทนของบริษัทโฆษณามาแล้ว
“ท่านประธานค่ะ คุณอีทงเฮ จากบริษัทเอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด มาแล้วค่ะ” เลขาคิมรายงานตารางนัดหมายให้แก่ท่านประธานทราบ
“ให้เข้ามาได้” ท่านประธานคนเก่งตอบกลับออกไป
“เชิญค่ะ คุณอีทงเฮ”
AE คนเก่งของบริษัทเอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด ตอนนี้ยืนอยู่หน้าท่านประธานคนเก่ง เจ้าชายน้ำแข็งของวงการธุรกิจ รอยยิ้มที่ยากจะได้เห็น มีแต่รอยยิ้มทางการค้าเท่านั้น ทำให้ทงเฮรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงเป็นอย่างมาก
“เชิญนั่งสิครับ คุณอีทงเฮ” ท่านประธานหนุ่มกล่าวให้แขกที่จะมาเสนองานทราบ
“เอ่อ ขอโทษครับ คือผม อีทงเฮ จากบริษัทเอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด” แต่วิญญาณของ AE คนเก่งได้เข้าสิงในตัวทงเฮแล้วสิ
“ครับ ผมเชวซีวอน”
.
.
.
เวลาผ่านไปราวชั่วโมงได้ ที่ทงเฮอธิบายโปรเจคการเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ของ เชวกรุ๊ปให้อย่างฉะฉาน ช่างแตกต่างจากตอนแรกที่เข้ามาอย่างสิ้นเชิง
“น่าสนใจมากนะครับ..แต่ยังไงผมคงต้องขอกลับไปศึกษาและไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นก่อนแล้วยังไงจะให้คุณเลขาคิมติดต่อกับไปนะครับ” ซีวอนสรุปผลจากการนำเสนอของทงเฮ
“เอ่อ..ครับ ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสบริษัท เอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด มีโอกาสได้นำเสนอผลงาน” ทงเฮเองก็รีบกล่าวลา เมื่อท่านประธานหนุ่มสรุปออกมายังงั้นแล้ว แล้วก็รีบเก็บเอกสารที่นำเสนอออกจากโต๊ะท่านประธานหนุ่มทันที
คงเพราะความรีบของทงเฮที่เก็บเอกสารทำให้รูปใบหนึ่งจากแฟ้มงานของทงเฮ ตกลงบนโต๊ท่านประธานโดยที่ทงเฮเองก็ไม่ทันรู้ตัว เมื่อทงเฮเดินไปถึงประตูแล้วโค้งให้ท่านประธานหนุ่มที่ยืนส่งแขกที่โต๊ะ แล้วปิดประตูจากไป
ซีวอนนั่งพักสายตา หลังจากที่ฟังการนำเสนอผลงานโฆษณาของทงเฮราวชั่วโมง การนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ยังไม่ถูกใจเค้า ก็ทำให้การฟังแอบดูน่าเบื่อเหมือนกัน เมื่อซีวอนลืมตาจากการพักสายตา ก็พบว่าทงเฮลืมรูปถ่ายใบหนึ่งที่คว่ำหน้าอยู่ ซีวอนดึงรูปถ่ายนั้นออกมา พบว่าเป็นรูปถ่ายคนคนนึงที่ก้มหน้า มองมือตัวเองอยู่ คนตัวขาว ปากแดง รูปร่างผอมบาง ที่บ่งบอกได้ยากว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่เป็นรูปที่ทำให้ท่านประธานหนุ่มอยากรู้จักคนในรูปขึ้นมา
+++++++++++++++
วันนี้เป็นวันที่ทงเฮมีความสุขมากกกกกกกก เพราะอะไรนะเหรอก็การนำเสนองานให้กับบริษัทเชวกรุ๊ป
ผ่าน
นั่นก็หมายถึงทงเฮได้งาน โอ้วววววววววว พระเจ้าจอร์จ มันยอดจริงๆๆ ทงเฮเดินไปยิ้มไปให้กับทุกคน
“เป็นบ้าอะไรของนายนะ ยิ้มยังกับคนบ้า” เป็นคยูฮยอนเพื่อนสนิทของทงเฮที่เดินเข้าไปถาม ในเมื่อคนทั้งบริษัททั้งกลัวไม่มีใครกล้าเข้าหาทงเฮสักคน
“ชั้นเสนองานที่บริษัทเชวกรุ๊ปผ่านแล้ว คยูฮยอนวันนี้นายสวยจังเลย นายนี่เป็นเทพธิดาจริงๆๆ” ทงเฮพูดแล้วจับหน้าคยูฮยอนมาจุ๊บซ้ายจุ๊บขวา วันนี้เพื่อนชั้นสวยมาก
“บ้าไปแล้วอ่ะนาย” คยูฮยอนจับแก้มตัวเองที่โดนทงเฮหอม
“ว่าเลย วันนี้ใครจะด่าชั้นก็ได้ ไม่โกรธ วันนี้อารมณ์ดี” ว่าแล้วทงเฮก็เดินเหมือนคนลอยได้จากไป เหลือแต่คยูฮยอนที่ยืนงงว่าเพื่อนตัวดีเค้าเป็นอะไร คยูฮยอนส่ายหัวแล้วเดินถอยหลังไปเรื่อยๆๆ โดยลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองยืนตรงทางเดินทำให้คยูฮยอนเดินถอยหลังไปชนใครเข้าอย่างจัง
“โอ๊ะ.. / โอ๊ย” เสียงแรกเป็นเสียงทุ้มของใครอีกคน แต่เสียงหลังเป็นเสียงหวานของคนตัวบาง
“ขอโทษฮะ” คยูฮยอนรีบก้มหัวขอโทษก่อนทันที ในเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเดินถอยหลังโดยลืมมองทาง
“คุณไม่เป็นไรนะครับ” เสียงทุ้มที่ไม่กล่าวโทษแต่กลับถามกลับมาอีก
“ไม่ฮะ ไม่เป็นไร เอ่อ..คุณ..” คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนที่ตัวเองชนคือคนคนเดียวกับเจ้าของรอยยิ้มที่ให้แก่เด็กน้อยที่ล้มหน้าบริษัทเชวกรุ๊ปนี่ หัวใจของคนตัวบางสั่น
“เทพธิดา” ซีวอนพึมพร่ำคนเดียว
“อะไรนะฮะ” คยูฮยอนเอียงคอเล็กน้อยอย่างน่ารัก สงสัยว่าคนนี้พูดว่าอะไร แต่ก็เพียงพอทำให้ซีวอนได้สติ
“อ๋อ เปล่าครับ ผมเชวซีอน คุณ...” ซีวอนยิ้มให้แก่คยูฮยอนเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นกว่าพระอาทิตย์ดวงไหน
“ผมโจคยูฮยอนฮะ”
“แล้วเราคงได้ผมกันนะครับ คยูฮยอน” ว่าแล้วซีวอนก็เดินจากไป พร้อมความอบอุ่นในใจของคยูฮยอนเกิดขึ้น
++++++++++++++
วันนี้ทางบริษัท เอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้ต้อนรับท่านประธานของเชวกรุ๊ป มาเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมของงานเปิดตัวโฆษณาน้ำหอมกลิ่นใหม่ ที่เน้นไปทางคู่รัก
“เอ่อ คุณซีวอนเห็นว่าไงครับ” ทงเฮกล่าว
“กลิ่นของน้ำหอม ที่ทำให้คนรักตามหากันจนเจอนะเหรอ” ซีวอนมองไปที่ทงเฮ ด้วยสายตาที่ทงเฮสาบานได้ว่าน่ากลัวสุดๆๆเลย หนาวไปถึงขั้วหัวใจกันเลยเชียว
“เอ่อ ครับ” ทงเฮเอ่ยตอบเสียงเบากว่าเดิมเยอะ ไม่มั่นใจเอาเสียเลยว่าที่นำเสนอไปจะถูกใจท่านประธานคนนี้หรือไม่
“ผมไม่ค่อยชอบตัวนี้ ยังไงขอเสนอให้ผมใหม่แล้วกันนะครับ” ว่าแล้วซีวอนก็ก้มหัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี แสดงว่าขอตัวก่อน ทงเฮทำคอตก ทำไมเค้าได้งานแล้ว แล้วประธานคนนี้ถึงยังไม่พอใจผลงานเค้านะ แล้วเลือกเค้าทำไม
“เป็นอะไรไป ทงเฮทำคอตกเหมือนปลาขาดออกซิเจนไปได้” คยูฮยอนที่เดินมาเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ใช้นำเสนอ แปลกใจในท่าทางของเพื่อนสนิท ที่เมื่อเช้ายังร่าเริงเหมือนปลาได้น้ำ แล้วไหงตกบ่ายเจอลูกค้าแล้วหงอยอย่างนี้
“คยูฮยอน ฮือ ฮือ” ทงเฮโผเข้าหาคยูฮยอนแล้วเล่าเรื่องราวที่ได้พบจากประธานน้ำแข็งขั้วโลกให้เพื่อนรักฟัง
“น้ำหอมตัวนี้นะเหรอ” คยูฮยอนหยิบน้ำหอมที่ทงเฮเล่าเรื่องราวโฆษณาขึ้นมาดู น้ำหอมขวดรูปหัวใจ คนตัวขาวทดลองโดยการเอาฉีดไปตามซอกคอ แล้วก็ที่ข้อมือ แล้วลองดมดู
“อืม กลิ่นมันเฉพาะตัวนะ แต่ว่ามันก็ไม่แรงพอที่จะทำให้ใครบางคนรู้นี่ นายยืนอยู่ใกล้ชั้นได้กลิ่นมั๊ย” คยูฮยอนถามกลับไปที่ทงเฮ
“ไม่ได้กลิ่น อ่า อย่างนี้นี่เอง นายนี่เป็นเทพธิดานำโชคของชั้นจริงๆๆ” ว่าแล้วทงเฮก็เดินไปด้วยสมองแล่นชิวเพราะคำพูดของคยูฮยอน
คยูฮยอนมองทงเฮแล้วหลุดหัวเราะออกมา คนอะไรเปลี่ยนอารมณ์ไวจริง ว่าแล้วก็เก็บเสื้อผ้าที่อยู่แถวนั้นที่ทงเฮนำมาเสนอท่านประธานน้ำแข็งอย่างที่ทงเฮเรียกกลับไปที่แผนก
คยูฮยอนยืนรอลิฟท์เพื่อนำเสื้อผ้าไปเก็บที่แผนกของตัวเอง ระหว่างที่ยืนรอ ก็มีคนคว้าเสื้อผ้าที่ตัวเองหอบอยู่เอาไปถือให้
“ผมช่วยถือให้ มันคงหนักข้อมือเล็กๆๆอย่างคยูฮยอนเดี๋ยวจะเมื่อยเอา” ซีวอนคว้าเสื้อผ้าไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างจับข้อมือเล็กของคยูฮยอนเพื่อแสดงให้เห็นว่าข้อมือของร่างบางเล็กจริงๆ
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณซีวอน เอ่อ คุณเป็นลูกค้านะฮะ” คยูฮยอนหน้าแดงกับการถูกซีวอนจับมือพยายามที่คว้าเอาเสื้อผ้าที่ตัวเองหอบไว้เมื่อกี้คืนกลับมา
“ไปชั้นไหนเหรอครับ” ซีวอนยังคงจับมือคยูฮยอนไว้แล้วลากเข้าลิฟท์ไปด้วยกัน
“ชั้น 3 ฮะ” เป็นคยูฮยอนที่ก้มหน้าตอบซีวอน เพราะว่ามือที่ถูกจับไว้ไม่ยอมปล่อย
“คยูฮยอนใช้น้ำหอมเลิฟด้วยเหรอครับ ชอบมั๊ย”
“เอ่อ คุณซีวอนได้กลิ่นด้วยเหรอฮะ” เป็นคยูฮยอนแสดงอาการแปลกใจ เพราะเมื่อกี้ที่ทงเฮยืนใกล้เค้ามากกว่าท่านประธานคนนี้เสียอีกยังไม่ได้กลิ่นเลย
“ครับ อาจเป็นเพราะคยูฮยอนเป็นคนใช้” ท่านประธานตอบไปโดยยืนยิ้มกรุ่มกริ่มที่ไม่เคยมีใครได้เห็น นอกจากคนตัวบางที่ยืนอยู่ข้างหน้า ก็เงาที่สะท้อนที่ประตูลิฟท์นะมันเห็นเด่นชัดในใจเลยทีเดียว
“///////////////////”
“คนอื่นใช้ผมอาจไม่ได้กลิ่นแต่เพราะเป็นคยูฮยอน” ท่านประธานน้ำแข็งพูดอย่างนี้คนตัวบางจะละลายเอา
ติ๊ด
“เอ่อ ชั้น 3 แล้วขอเสื้อผ้าคืนด้วยฮะ แล้วก็ขอบคุณฮะ”คยูฮยอนคว้าเสื้อผ้าไว้ แล้วรีบเดินออกจากลิฟท์ แต่ก็หันกลับมาโค้งให้กับซีวอนอีกครั้ง
“ผมรอคยูฮยอนอยู่ข้างล่างนะครับ กินข้าวด้วยกันถือว่าเป็นค่าถือเสื้อผ้า” หลังซีวอนพูดจบประตูลิฟท์ก็ปิด แต่คนที่ยืนหน้าลิฟท์ยืนตัวแข็งเป็นท่อนไม้ จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสไตลิสต์คนอื่นต้องมาเรียกถึงได้สติ
++++++++++
ตอนเย็นวันนั้นคยูฮยอนไม่แน่ใจว่าที่ซีวอนพูดเป็นความจริง หรือว่าล้อเล่น ก็ค่อยๆๆเดินลงมาที่ห้องโถงของออฟฟิศชั้นล่าง แล้วหันไปหันมาดูว่าซีวอนรออยู่ที่ชั้นล่างจริงอย่างที่บอกหรือเปล่า เป็นภาพที่ใครผ่านมาผ่านไป ต่างมองอมยิ้มที่เห็นคนน่ารักทำอยู่
“เป็นอะไรนะคยูฮยอน” ทงเฮเดินมาตบหลังของร่างบางเบาๆๆ
“ทงเฮ๊” คยูฮยอนตกใจร้องเสียงดัง
“ก็ชั้นนะสิ ทำไม” ทงเฮยืนยิ้มแฉ่งให้คยูฮยอน
“ป่าว เป็นไงคิดงานได้แล้วหล่ะสิ อารมณ์ดีเชียว”คยูฮยอนเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นเพื่อนรักหน้าตาสดใสขึ้นจากเดิมมาก
“อ๋อ เมื่อกี้ท่านประธานเชวโทรมาบอกว่า ไอเดียที่ชั้นเสนอน่าสนใจ คนรักจะตามหากันเจอ เพราะเป็นคนที่รักกันที่ใช้เท่านั้น” ทงเฮเล่าให้คยูฮยอนฟัง แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่าเพื่อนตัวบางของตัวเองหน้าแดงแค่ไหน ก็ไอ่ที่ทงเฮพูด มันเป็นคำพูดที่ได้ยินในลิฟท์นี่นา
“คนอื่นใช้ผมอาจไม่ได้กลิ่นแต่เพราะเป็นคยูฮยอน”
คำพูดนี้ลอยเข้ามาให้หัวคยูฮยอนอย่างเลี่ยงไม่ได้ หน้าของคยูฮยอนก็แดงไปตามระเบียบ ทำให้คนตัวบางไม่ได้สังเกตเลยว่าเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง เงียบไปพร้อมทำตาโต เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของคยูฮยอน
“คยูฮยอนเลิกงานหรือยังครับ ไปกันได้หรือยัง” เสียงทุ้มที่พูดขึ้นมาเหมือนพูดอย่างข้างหูของคยูฮยอน ทำให้คยูฮยอนสะดุ้งแล้วหันกลับไปเจอหน้าของซีวอนเป็นผลให้การก้าวถอยหลังของคยูฮยอนเสียการทรงตัว แต่คนร่างสูงมือไวคว้าข้อมือบาง แต่คงคว้าแรงเกินไป ทำให้ร่างบางเข้าไปซบที่หน้าอกของร่างสูงเสียแทน
“เอ่อ คุณซีวอน” คยูฮยอนเมื่อยืนทรงตัวได้ เอามือดันที่หน้าอกของซีวอนแล้วเด้งไปยืนให้เรียบร้อย
“ว่าไงครับคยูฮยอน เลิกงานยัง” ซีวอนหันไปพูดกับคยูฮยอนด้วยน้ำเสียงที่นุ่นนวล แตกต่างจากเวลาตำหนิเรื่องผลงานของทงเฮยิ่งนัก
“เลิกแล้วฮะ แล้วเราจะไปไหนกันเหรอฮะ” คำว่า เรา ที่คยูฮยอนใช้พูดกับซีวอนทำให้ซีวอนรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย อยากจะทำมากกว่าแค่จับมือ อยากจะคว้าคนตัวบางมาไว้ในอ้อมกอดกันเลยทีเดียว
“หิวยัง ไปทานข้าวกันครับ คุณทงเฮไปด้วยกันมั๊ยครับ” ประโยคแรกพูดกับคยูฮยอนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แต่ประโยคหลังเหมือนหันไปชวนทงเฮตามมารยาทมากกว่า
“เอ่อ ผมติดงานครับ งั้นลาก่อนนะครับคุณซีวอน” ว่าแล้วทงเฮก็ก้มโค้งให้กับซีวอนแล้วเดินตัวปลิวหายไปจากตรงนั้นทันที เหลือแต่ซีวอนที่ยังคงจับมือคยูฮยอนไว้ แล้วคยูฮยอนที่ยืนหน้าแดงอยู่
“งั้นเราไปกับได้แล้วใช่มั๊ยครับคยูฮยอน” ซีวอนหันไปกระซิบที่ข้างหูของคยูฮยอน แล้วไม่รอช้าเดินลากคนตัวบางไปทันที
++++++++++
“เดี๋ยวสิฮะ คุณซีวอนจะพาผมไปไหน” คยูฮยอนพยายามจะขืนตัวเองเอาไว้ ก็ท่านประธานลากเอาลากเอา ถ้าไม่ยั้งไว้จะรู้มั๊ยอ่ะว่าจะพาไปไหน
“กินข้าวไงครับ แล้วคยูฮยอนก็เลิกเรียกผมว่าคุณได้แล้ว” ซีวอนหยุดแล้วหันไปมองหน้าคนน่ารักที่น่ามองที่สุด เท่าที่ซีวอนเคยเห็นกันเลย
“แต่..” คยูฮยอนยืนเอียงคอทำท่าลังเล ที่น่ารักที่สุดในโลกเลย
“นะครับ” ซีวอนเอ่ยเสียงออดอ้อนออกมาโดยที่ตัวเองยังไม่รู้ตัว ก็เพียงพอที่ทำให้คนน่ารักก้มหน้าพยักหน้ายอมรับ ตามหัวใจเรียกร้อง
“คยูฮยอนอยากทานอะไรครับ”
“ผมทานอะไรก็ได้ฮะ แล้วแต่คุณ.. เอ่อ.. ซีวอน” ไอ่อาการตอบแรกๆๆก็ยังโอเคนะ แต่พอการต้องเรียกชื่อซีวอนเฉยๆๆนี่ทำให้คนตัวบางร่างขาวเขินออกมาแบบไม่รู้ตัว ทำไมกันนะ เหมือนว่าช่องว่างระหว่างเรามันแคบลงอย่างไม่รู้ตัว
“งั้นเนื้อย่างเป็นไง” เป็นซีวอนสรุปแล้วลากคนตัวบางเข้าร้านเนื้อย่างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากออฟฟิศของคยูฮยอนมากนะ เมื่อมานั่งในร้านพร้อมบริกรมารอรับออเดอร์ แต่ร้านคงจะธรรมดาเกินที่ท่านประธานหนุ่มจะเคยเข้ามาทานทำให้ซีวอนถึงกับสั่งอาหารไม่ถูกเลยทีเดียว อาการงงกับเมนูทำให้คยูฮยอนเผลอหัวเราะออกมา เงยหน้ายิ้มให้กับซีวอน พร้อมดึงเอาเมนูไปสั่งเอง
“เอาชุดเนื้อย่างเซ็ตเอ 2 ชุดฮะ เอ่อ ซีวอนดื่มโซจูมั๊ย งั้นเอาโซจู 2 ขวดฮะ” คยูฮยอนสั่งอาหารรวดเดียวจนจบ ซีวอนนั่งจ้องมองปากเล็กๆสั่งอาหาร แววตาสดใสของคนข้างหน้า เป็นภาพที่น่ามองมากกว่าสิ่งใด
“คยูฮยอนชอบทานเนื้อย่างเหรอ” เมื่ออาหารนำมาส่งแล้ว เป็นคยูฮยอนที่นั่งอมยิ้มไป ย่างเนื้อไป แล้วท่าทางที่กินอีกเหมือนคนมีความสุขเหลือเกิน
“ฮะ” ตอบทั้งที่เนื้อยังเต็มปาก อาการประหม่าของคยูฮยอนเหมือนจะหมดไป เพราะเริ่มจะคุ้นเคยกันมากขึ้น
“งั้นวันหลังผมจะพาคยูฮยอนไปกินสเต็คเนื้อ” ซีวอนมองภาพข้างหน้าแล้วก็ยิ้มกับภาพที่เห็น คนตัวบางกินเนื้อแก้มตุ่ย น่าตาน่ารักมาก แต่วันนี้ซีวอนยิ้มบ่อยเกินไปหรือเปล่า แล้วหัวใจที่เริ่มเต้นนี่คืออะไร
“ห๊า..ได้ไงฮะ แล้ววันนี้ผมขอเลี้ยงซีวอนด้วยหล่ะ” คยูฮยอนร้องตกใจ จะพาไปกินนี่หมายความว่าไง ไม่ได้หรอกซีวอนเป็นลูกค้า เดี๋ยวเลี้ยงอาหารท่านประธานแล้วไปเรียกเก็บเงินจากทงเฮดีกว่า
“ใครว่าผมจะเลี้ยง ผมจะให้คยูฮยอนเลี้ยงต่างหาก แค่บอกจะพาไปเท่านั้น” ซีวอนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อซีวอนพูดจบแล้วคนตัวหน้าบาง ทำหน้างอนโดยการอมลม
“งั้นผมไม่ไปกับซีวอนแล้ว” น่านงอนแล้วยังหันหน้าไปเชิดมองออกไปนอกร้านอีก มันน่ารักเกินไปแล้วนะคยูฮยอน
“ผมล้อเล่นน่า” ไม่ง้อด้วยคำพูดปล่าว แต่ท่านประธานยังจับมือบาง แล้วลูบไปมาเพื่อแสดงอาการงอนง้อ เล็กๆ ที่อุ่นไปถึงใจของคนโดนง้อ
“ผมไม่ได้เป็นคนขี้งอน งั้นผมหายงอนก็ได้” ว่าแล้วก็หันมายิ้มจนตาปิดแล้วก็หยิบเนื้อย่างกินต่อ วันนี้ซีวอนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อหน้าของตัวเองทำงานหนักเหลือเกินก็ มันยิ้มตลอดเวลานะสิ
+++++++++++++
หลังจากมื้ออาหารค่ำแสนอุ่นใจของซีวอนผ่านไปได้เป็นอาทิตย์แล้ว
แต่ไอ่อาการเห็นหน้าคนตัวขาวๆๆบางๆๆนี่หล่ะ
นึกถึงแต่รอยยิ้มหวานๆๆ
นึกถึงเสียงหวานๆ ที่ออกอาการงอนเล็กๆๆนี่หล่ะ มันคืออะไร ท่านประธานคนเก่งถึงกับงง
“เฮ้ย เรียกกูมีอะไรเหรอไอ่ซีวอน” เป็นคิบอมเพื่อนรักของซีวอนเปิดประตู้เข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเพื่อนซี้คู่นี้
“อืม มีเรื่องปรึกษา” ซีวอนเงยหน้าเล็กน้อยดูว่าใครมาแล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารต่อไป ไม่สนใจที่จะหยุดเพื่อคุยกับเพื่อนซี้เลย
“เรื่องอะไรที่ท่านประธานคนเก่งคนนี้แก้ไม่ได้ว่ะ” คิบอมนั่งตรงหน้าท่านประธานแล้วคว้ากาแฟดำของท่านประธานมาดื่ม เอ่อกาแฟบริษัทไอ้วอนมันอร่อยดีเหมือนกัน
“อืม”
“อะไรของแกว่ะ เรียกมาตอบแต่อืมๆๆ ถ้ามึงไม่เลิกทำงาน แล้วยังก้มหน้าก้มตาอยู่หล่ะก็ กูจะกลับเว้ย” กาแฟก็หมดแล้ว
“เอ่อ...กูไม่รู้จะเริ่มยังไง” ซีวอนเงยหน้าจากกองเอกสาร แล้วสบตาเพื่อนรักของตัวเอง
“งั้นมึงเป็นอะไร”
“กูก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเห็นแต่ภาพใครบางคนตลอดเวลา” ซีวอนพูดไปอมยิ้มไป อย่างที่เพื่อนวี้ตั้งแต่เด็กอย่างคิบอมไม่เคยเห้นมาก่อน
“แล้วไงอีก”
“กูอยากไปหาเค้าตลอดเวลา”
“..............”
“อยากอยู่ใกล้เค้าตลอดเวลา”
“..................”
“เวลาอยู่กับเค้าแล้วมีความสุข”
“....................”
“เวลาอยุ่ด้วยกัน รู้สึกอยากให้เวลาหยุดลง” ซีวอนพูดก็ทำหน้าชวนฝันอยากที่เพื่อนซี้ไม่เคยเห็นมาก่อน
“มึงไม่ต้องตอบกู เอาไปตอบหัวใจของตัวเอง แล้วมึงจะรู้คำตอบที่มึงเป็นมาตลอดทั้งอาทิตย์”
“อืม กูเข้าใจหล่ะ ขอบใจแกมากเลยไอ่บอม ว่าแต่อาทิตย์นี้แกว่างหล่ะสิ สนใจไปดูเค้าถ่ายโฆษณาน้ำหอมกลิ่นใหม่ของกูป่าว วันอาทิตย์นี้”
“ที่ไหนว่ะ”
“ทะเลเชจู” ทะเลที่อาจทำให้ใครหลายคนจดจำไม่มีวันลืม
+++++++++++++++++
บริษัทเอสเจ อินเตอร์ไพรส์ จำกัด
“ใครเอานางเอกคนนี้มาถ่ายโฆษณาเนี่ย” เสียงโวยวายของอีทงเฮ AE คนเก่งโวยขึ้นมา เมื่อเจอว่า ลีน่า นักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับความเรื่องมาก มาเป็นนางเอกโฆษณานางเอกน้ำหอม
“เอ่อ ทางบริษัทเชวกรุ๊ปนะสิเป็นคนเลือก” เป็นเสียงของทีมงานคนนึงตอบกลับมา
“เอาน่า เอาใจลูกค้านะทงเฮ” เป็นเสียงคยูฮยอนที่คอยปลอบใจเพื่อนรัก หรือปลอบใจตัวเองกันแน่ ในเมื่อซีวอนท่านประธานเป็นคนระบุชื่อนางแบบคนนี้ให้แสดง นางแบบที่เคยมีข่าวว่าควงกับท่านประธานหนุ่มมาก่อน แค่คิดก็ทำให้กระบอกตาของสไตลิสต์คนเก่งร้อนขึ้นมา นี่เค้าเป็นอะไรไปนะ อย่างท่านประธานหนุ่ม หล่อ รวย มีเสน่ห์ขนาดนี้มีเหรอที่จะไม่มีคนรัก แล้วเค้าเป็นใคร อาจแค่เคยไปทานข้าวกันท่านประธานเท่านั้น ก็หลงได้ใจคิดว่า เค้าคงถูกชะตาด้วย ว่าแล้วคนตัวบางร่างขาวก็ถอนหายใจ เดินหายไปทางห้องน้ำ
“คยูฮยอนเป็นอะไรไปนะ ตั้งแต่รู้ว่ายัยลีน่าจะมาแสดงโฆษณา ก็เหมือนคนไม่มีวิญญาณมาทำงานเลย ว่าป่าว” ทงเฮหันไปคุยกับทีมงานคนนึงทันที เมื่อเห็นเพื่อนรักแสดงอาการอย่างนี้อีกแล้ว
“นั่นสิ” เป็นทีมงานอีกคนแสดงอาการเห็นด้วยออกมา
+++++++++++++++++++++
วันถ่ายทำโฆษณา ทีมงานทุกคนต่างมาถึงกองถ่ายก่อนกำหนดการ 1 วันเพื่อเตรียมตัวการถ่ายโฆษณา รวมไปถึงสไตลิสต์คนเก่งด้วย ทั้งที่มาพร้อมนักแสดงสาวก็ได้ แต่คยูฮยอนกับติดหนึบกับทีมงาน ปล่อยให้ทงเฮไปต้อนรับนักแสดงและท่านประธานหนุ่มคนเดียว
เมื่อท่านประธานและนักแสดงสาวมาถึง ก็ยิ่งตอกย้ำกับข่าวมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นนักแสดงสาวควงแขนมากับท่านประธานหนุ่ม
“สวัสดีค่ะ” ลีน่าทักทีมงานเสียงใส ดูเหมือนเป็นสาวน้อยแสนน่ารักมากกว่านักแสดงที่เรื่องมากอย่างที่ใครๆกล่าวถึง
“เอ่อ ชุดของลีน่าเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยค่ะ งั้นลีน่าขอไปลองก่อนนะค่ะ” เสียงแรกเอ่ยถามทางทีมงาน แต่ประโยคหลังเสียงออดเสียงอ้อนไปหาซีวอน ซีวอนเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น
“นี่ เธอนะเป็นสไตลิสต์ใช่มั๊ย งั้นก็มาพาชั้นไปลองชุดสิ” ลีน่าหันมาแว้ดใส่คยูฮยอนทันที นี่ไงอาการนักแสดงที่เรื่องมากจริงๆ คยูฮยอนหันไปสบตากับท่านประธานหนุ่มแวบเดียวจริงๆ แล้วเดินไปหานางแบบสาว แต่เป็นซีวอนเสียเองที่รู้สึกถึงสายตาตัดพ้อต่อว่าจากคยูฮยอน แต่แค่แวบเดียวจริงๆ เพราะว่าหลังจากนั้นคยูฮยอนก็ยังคงยิ้มแย้มกับทีมงานเหมือนปกติ
“เหนื่อยมั๊ยครับ” ซีวอนเดินเข้าไปยืนเคียงข้างคยูฮยอนเมื่อเห็นคยูฮยอนยืนหลบแดดใต้ต้นไม้ ใกล้ๆกองถ่าย
“ไม่ฮะ คุณซีวอนคงร้อนไม่ไปรอที่ตู้ก่อนหล่ะฮะ” เป็นคยูฮยอนที่ตอบซีวอนตามปกติ
“แต่หน้าคยูฮยอนซีดมากนะ คยูฮยอนน่าจะไปนั่งพักมากกว่า”ไม่พูดเปล่า มือแกร่งก็จับไปเช็ดเหงื่อที่ออกตามไรผมของสไตลิสต์คนเก่ง
“....”
“คยู..” / “นี่สไตลิสต์มาดูผมชั้นหน่อยสิ มันยุ่งหรือเปล่า” ซีวอนกำลังจะพูดอะไรสักอย่างกับคยูฮยอนแต่กับถูกเสียงของลีน่าแว้ดขึ้นมาขัดจังหวะ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ” คยูฮยอนก้มหัวให้ซีวอนแล้วเดินเข้าไปหาลีน่า
“นี่เธอ อย่าคิดจะมาแย่งซีวอนไปจากชั้นนะย่ะ” ลีน่าอาศัยจังหวะที่คยูฮยอนแต่งตัวให้กระซิบบอกคยูฮยอน
“แต่ผม....”
“นายมันไม่เหมาะกับเค้าหรอก อีกอย่างชั้นกับซีวอนเราจะหมั้นกันเร็วๆๆนี้แล้ว” ลีน่ายังคงลอยหน้าลอยตาตอบออกไป แล้วคว้าแก้วน้ำมาดื่ม โดยไม่สนใจหน้าตาที่ซีดเซียวของคยูฮยอนเลย
“ฮะ” คยูฮยอนก้มหน้าตอบ โดยไม่ให้มือสั่น นั่นสิใครเค้าจะมาสนใจตัวเค้ากันนะ คุณลีน่าต่างหากที่เหมาะสมกับคุณซีวอน เพราะคยูฮยอนมัวแต่ก้มหน้าเลยไม่ทันเห็นว่าลีน่าทำสีหน้าอย่างไรเวลามองดูตัวเอง
“นี่ชั้นเจ็บนะ ทำไมดึงผมชั้นแรงอย่างนี้” เป็นลีน่าโวยวายเสียงดังออกมา คยูฮยอนถึงกับทำหน้างง ว่าไปดึงผมลีน่าเมื่อไหร่ เมื่อกี้กำลังจัดเสื้ออยู่ต่างหาก ไม่ได้โดนผมเลย
“เธอไปได้แล้ว” ว่าแล้วก็ผลักคยูฮยอนให้ออกไป แต่ลีน่าออกแรงอย่างแรงเพราะตั้งใจให้คยูฮยอนล้มลง และในขณะเดียวกันที่คยูฮยอนรุ้สึกหน้ามืดจากการที่เมื่อคืนไม่ได้นอนหลับ ยิ่งทำให้คยูฮยอนล้มลงไปอย่างแรง โดนเศษหินแถวนั้น
“โอ๊ย” เป็นคยูฮยอนร้องออกมาเมื่อล้มลงไปแล้วขาไปโดยเศษหิน ทำให้เลือดออก
“คยูฮยอน” ท่านประธานหนุ่มวิ่งมาจากไหนไม่มีใครรู้แต่มาถึงตัวคนเจ็บอย่างรวดเร็ว เกินที่นักแสดงสาวจะปรับสีหน้าทัน เมื่อมาถึงร่างสูงอุ้มคนเจ็บขึ้นแนบอก แล้วร้องเรียกให้ทีมงานจัดรถเพื่อพาคนเจ็บไปทำแผล แล้วหันหน้าไปทางนักแสดงสาว
“ลีน่า ผมว่าเราต้องคุยกัน” ว่าแล้วก็เดินอุ้มพาคนเจ็บเดินห่างออกไป ปล่อยให้ลีน่าหน้าซีดกับสายตาที่น่ากลัวของท่านประธานหนุ่ม อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
สถานีอนามัยของเกาะเชจู
“โอ๊ย เจ็บฮะ” คยูฮยอนร้องลั่นเมื่อพยาบาลสาวกำลังทำแผลให้อย่างเบามือ แต่มือบางกับมืออุ่นของร่างสูงกอบกุมไว้ไม่ยอมปล่อย
“คยูฮยอนเจ็บมากมั๊ย” ซีวอนเสียอีกที่ร้อนรนเมื่อเห็นดวงตากลมสวยที่เคยสดใส แต่ตอนนี้มีน้ำตาคลอเป้า
“ซีวอนฮะ เจ็บฮะ ไม่ทำไม่ได้เหรอ” คยูฮยอนเงยหน้าไปสบตากับซีวอน แล้วทำเสียงออดอ้อน
“ไม่ได้หรอกเด็กดื้อ ทรายมันเข้าแผล มันจะอักเสบ เดี๋ยวจะยิ่งแย่กว่านี้นะ คยูฮยอนอย่ามองสิครับ” ว่าแล้วก็คว้าเอาหัวกลมมาซบที่อก เพื่อให้หลีกเลี่ยงไม่ต้องมองแผล ส่วนมือก็กระชับมือบางยิ่งขึ้น
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พยาบาลสวยอมยิ้มกับภาพที่น่ารัก ที่คนตัวโตๆกอดปลอบคนตัวเล็ก เป็นภาพที่น่าเอ็นดูจริงๆ
“ขอบคุณฮะ” คยูฮยอนเงยหน้าแดงๆของตัวเอง ออกมาขอบคุณคุณพยาบาลที่ทำแผลให้
“แต่คืนนี้อาจมีไข้นะค่ะ ยังไงทานยากันไว้ก่อนด้วยนะค่ะ” พยาบาลสาวกล่าวแล้วเดินจากไป คยูฮยอนพยายามจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปที่พัก แต่ท่านประธานหนุ่มไวกว่า คว้าตัวคนตัวบางอุ้มขึ้นแนบอกแล้วพาเดินออกไป
“ซีวอนฮะ” คยูฮยอนร้องออกมา พร้อมหน้าแดง ก็มันน่าอายจริงๆ ทำไมเค้าต้องโดนอุ้มท่าเจ้าหญิงด้วย
“คยูฮยอนขาเจ็บนี่ครับ อย่าเพิ่งเดินดีกว่า อย่างนี้แหละถึงที่พักเร็วดี อย่าดื้อนะครับ” ซีวอนเดินอุ้มคนตัวบางไปยิ้มไป อะไรจะมีความสุขขนาดนั้น นี่เค้าตกหลุมรักคยูฮยอนเข้าแล้วใช่มั๊ย
หลังจากที่ซีวอนอุ้มคยูฮยอนไปส่งที่ห้องแล้วก็เดินออกมาเพื่อคุยกับลีน่า ตามที่คุยกันไว้
“ลีน่า ผมเห็นนะว่าคุณผลักคยูฮยอนล้มลง”
“เอ่อ ซีวอนค่ะ”
“ผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมเห็นคุณเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น อย่าให้ผมหมดความเกรงใจคุณลุงนะ”
“คุณรักคยูฮยอนเหรอค่ะ” ลีน่าคอตก ใช่เธอเคยสารภาพรักกับซีวอนมาก่อน แต่ว่าซีวอนก็ปฏิเสธเธอมาตลอด แต่ที่ยอมไปไหนมาไหนกับเธอเพียงเพราะว่าซีวอนไม่มีใครที่คบด้วย และเกรงใจพ่อของเธอต่างหาก
“ครับ ผมรักคยูฮยอน” ซีวอนรู้สึกว่า คำพูดนี้เค้าอยากพูดให้คนทั้งโลกฟัง อยากจะประกาศให้โลกรู้ว่าคนนี้คือคนที่เค้าตามหา
“ขอโทษด้วยค่ะ แล้วชั้นก็ฝากขอโทษคยูฮยอนด้วยนะค่ะ” ถึงเวลาแล้วที่ลีน่าต้องยอมรับความจริง
++++++++++++++++
ตอนเช้าที่ต้องขนกองกลับโซล ทีมงานต่างช่วยกันเก็บของมากมาย มีแต่คยูฮยอนที่นั่งมองคนโน้นเก็บของที คนนี้เก็บของที โดยถูกทุกคนในกองถ่ายห้ามคยูฮยอนช่วยเด็ดขาด ทำได้แต่มองอย่างเดียว
“เอาหล่ะ เก็บของเสร็จแล้ว กลับกันเถอะคยูฮยอน” ทงเฮเอ่ยเสียงใส เมื่อเห็นคยูฮยอนมองเหม่อไปทางลีน่า และซีวอน
“เอ่อ เอาดิทงเฮ” คยูฮยอนหันหน้าจากภาพที่สะเทือนใจ หันกลับไปหาทงเฮ แล้วยิ้มเนือยๆส่งให้
“โอเค คุณซีวอนครับ พร้อมกลับแล้วครับ” ทงเฮตะโกนบอกซีวอน ทำให้คยูฮยอนถึงกับทำหน้างงว่าทำไมต้องบอกซีวอนด้วย ซีวอนเดินตรงมายังที่คยูฮยอนแล้วก็ทงเฮ
“ขอบคุณครับคุณทงเฮ คยูฮยอนเรากลับกันเถอะ” หันไปขอบคุณทงเฮแล้ว ก็หันไปอุ้มคนเจ็บขึ้นแนบอก พร้อมพาเดินไปที่รถของท่านประธานที่จอดรออยู่แล้ว
“เดี๋ยวสิฮะซีวอน รถผมอยู่ตรงโน้น แล้วไม่ต้องอุ้มผมก็ได้” คยูฮยอนร้องลั่น แต่ไม่กล้าดิ้นกลัวตกจากการอุ้ม
“มาคันนี้นะถูกแล้ว” ว่าแล้วก็พาคยูฮยอนขึ้นแล้วสั่งให้คนขับรถออกรถไปทันที
“เอ่อ แล้วคุณลีน่าหล่ะฮะ” คยูฮยอนก้มหน้าถาม ใจนึงก็ไม่อยากได้ยินคำตอบ แต่อีกใจก็อยากได้ยิน
“เค้าก็กลับกับทีมงานสิครับ หรือว่าคยูฮยอนอยากให้เค้ากลับกับเรา” ซีวอนก้มหน้าไปมองคนตัวบางที่นั่งก้มหน้าข้างๆแล้วอมยิ้ม
“เอ่อ ก็แล้วแต่ซีวอนสิฮะ” คยูฮยอนยังคงก้มหน้าก้มตาตอบ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าของซีวอนก้มมาใกล้เกือบติดหน้าของตัวเองแล้ว ถ้าเพียงคนตัวบางเงยหน้านิดหนึ่งแก้มใสคงโดยปลายจมูกของท่านประธานแน่เลย
“คยูฮยอน” ซีวอนเรียกชื่อคยูฮยอนข้างหู ก็เพียงพอที่ทำให้คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตาท่านประธาน เหมือนมีแรงดึงดูดทั้งคู่เข้าหากัน ทำให้ปากหนาของท่านประธานก้มลงไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากปากอิ่มของคนร่างบางตรงหน้า จูบที่ท่านประธานรู้สึกว่าหวานเหลือเกิน แค่ครั้งเดียวคงไม่พอ ซีวอนก้มลงไปเก็บเกี่ยวความหวาน จนคนตัวบางอากาศจะหมดปอด ต้องกระตุกเสื้อท่านประธานหนุ่ม
“ผมรักคยูฮยอนจังเลย” ซีวอนกระซิบเมื่อปากติดที่ริมฝีปากของร่างบาง
“แล้ว..คุณลีน่า” คยูฮยอนก้มหน้าก้มตา แต่แก้มที่แดงปลั่งก็เพียงพอให้ซีวอนรู้ว่า คนตัวบางรู้สึกอย่างไร
“ลีน่า เป็นแค่น้องสาวของผมเท่านั้น ผมรู้จักลีน่าเพราะว่าพ่อของลีน่าเป็นเพื่อนกับคุณพ่อของผมเท่านั้น ผมไม่เคยรู้จักคำว่ารัก จนกระทั่งวันหนึ่งมี AE จากบริษัทหนึ่งมาเสนองาน แต่ว่าเค้าดันลืมรูปใครบางคนเอาไว้บนโต๊ะของผม แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าต้องตามหาคนคนนี้ให้ได้” ซีวอนเล่าไป โดยคว้าคนตัวบางขึ้นมานั่งตักในรถ แล้วเอาคางเกยไว้ที่ไหล่บาง เล่าไปเรื่อยๆๆ โดยคยูฮยอนก็ไม่ยอมขัด
“เมื่อผมไปที่บริษัท ผมได้เจอกับเทพธิดา ที่เดินมาชนผมเอง ตอนนั้นอยากจะคว้าเทพธิดาไว้จังเลย จะได้ไม่ต้องไปยิ้มให้ใคร แต่ว่าเทพธิดาของผมก็ช่างน่ารักจริงๆ เมื่อเค้าลองใช้น้ำหอมของผม มันช่างตรึงใจจริงๆ เพียงแค่คนนั้นใช้น้ำหอมนี้ มันเหมือนว่าเราเจอแล้วคนที่เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป และก็เพียงพอที่จะผมจะบอกว่า ผมตกหลุมรักเทพธิดาองค์นี้ซะแล้ว” ซีวอนเล่าไปก็กดจมูกเข้ากับขมับของคนตัวบางที่นั่งอยู่ที่ตัก
“คยูฮยอนว่าเทพธิดาจะรับรักผมมั๊ย” คยูฮยอนยังพูดไปโดยปากไม่ห่างจากแก้มใสเลย
“เอ่อ ผมไม่รู้สิฮะ” คยูฮยอนนั่งหน้าแดง แล้วเริ่มยุกยิกจะลงจากตักให้ได้
“แล้วคยูฮยอนหล่ะ รักผมมั๊ย” ซีวอนอุ้มคยูฮยอนให้หันหน้ามาชนกัน แหมช่างเป็นท่าที่ล่อแหลมเหลือเกิน
“ฮะ” คยูฮยอนก้มหน้าก้มตาตอบ ไม่กล้าสบตาท่านประธานหนุ่ม
“อะไรนะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ซีวอนอยากฉวยโอกาสอย่างนี้อีกสักพักใหญ่ๆ
“ถ้าผมตอบแล้วซีวอนปล่อยผมก่อนนะฮะ” คยูฮยอนต่อรอง
“ก็ได้ ว่าไงครับ”
“ฮะ ผมก็รักซีวอน” หลังจากที่คยูฮยอนตอบจบ ท่านประธานหนุ่มกับผิดสัญญาคว้าคนตัวบางเข้ามาจูบ จูบที่เป็นสัญญาว่าจะรักกันชั่วนิรันดร์
+++++++++++++
หลังจากวันนั้นแล้ว ชีวิตของสไตลิสต์คนเก่งก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ตอนนี้ตกเย็นจะเห็นรถออดี้ สีขาวคันงามขับมารับทุกวัน โดยมีประธานของบริษัทเชวกรุ๊ปเป็นสารถีคนเก่งมารับ
“คยูฮยอนรอนานมั๊ย” ร่างสูงก้าวอย่างเร็วเพื่อเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนรออยู่หน้าบริษัท
“ไม่ฮะ” คยูฮยอนต้อนรับคำถามที่แสดงความเป็นห่วงด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ท่านประธานคนเก่งใจสั่นเช่นเคย
“แล้วทำไมคยูฮยอนไม่รอในตึกหล่ะครับ มายืนรอข้างนอกอากาศเย็น เดี๋ยวไม่สบายเอานะครับ” ไม่ว่าเปล่าท่านประธานเอื้อมมือไปจับแก้มใสยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่าอากาศภายนอกหนาวเย็นจริงๆ
“ก็พอดี เอ่อ...” อยู่ดีๆๆคยูฮยอนก็หน้าแดงขึ้นมา
“ว่าไงครับ” ซีวอนยิ่งก้มหน้าเพื่อไปสบตาคนที่ชอบทำตัวน่ารัก
“ก็ทงเฮชอบแซวเรื่องที่ซีวอนมารับผมบ่อยๆนะฮะ แล้ว เอ่อ..... ผมเขิน” คยูฮยอนเล่าด้วยอาการหน้าแดง หูแดง แต่ว่าน่ารักที่สุดในโลกเลย ถ้าไม่เห็นว่าอยู่ในที่สาธารณะนะ เชวซีวอนคนนี้จะคว้าตัวลูกแมวน้อยมาจูบให้ปากอิ่มช้ำให้หายหมั่นเขี้ยวไปเลย แต่ตอนนี้ท่านประธานทำได้แค่คว้ามือบางขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากลงไปแทน
“แล้วคยูฮยอนจะเขินทำไม เรื่องจริงนี่ครับ” ท่านประธานตอบไม่พอยังก้มมองหน้าหวานที่แดงขึ้นเรื่อยๆตามความเขินของคนฟัง ช่างเป็นภาพที่น่ามอง ทำให้ต่อมความหวงของท่านประธานทำงานเสียแล้ว
“งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ ยืนตรงนี้นานๆ คยูฮยอนจะไม่สบายเอา” ว่าแล้วท่านประธานใช้อำนาจของท่านประธานจูงมือคนรักขึ้นรถไป
“คยูฮยอนอยากทานอะไร” ซีวอนขับรถไป ส่วนมืออีกข้างยังคงจำมือบางของคนที่นั่งข้างๆไว้ไม่ยอมปล่อย
“อะไรก็ได้ฮะ ผมกินได้ทั้งนั้น”
“เอาอะไรดีน้า” ท่านประธานทำหน้าคิดหนักเสียเหลือเกิน ทำให้คนที่นั่งข้างๆอดหมั่นไส้ไปไม่ได้
“ผมอยากกินเค้ก ไปกินเค้กด้วยนะฮะ”
“ฮ่าๆๆ ได้สิ แต่ก่อนอื่นต้องกินข้าวก่อนนะ ไม่งั้นไม่โตด้วย”
“ผมโตแล้วนะ” คยูฮยอนทำหน้ามุ่ย อมลงที่แก้มเพื่อแสดงให้ร่างสูงรู้ว่ากำลังจะงอนแล้วนะ คงเป็นเพราะซีวอนทำบุญมาดี เลยทำให้ตอนนี้รถติดไฟแดง มีเวลามากพอที่จะง้อเด็กดื้อข้างๆ
ฟอดดดดดดดดดดดดด
“ง้อแล้วนะ หายโกรธกันนะครับ” ซีวอนหอมแก้มใสของคนตัวบาง แล้วส่งยิ้มอ้อนที่ๆไม่ใช่คนตัวบางร่างขาวคนนี้แล้วก็คงไม่มีใครเคยได้เห็น แหมแก้มของคยูฮยอนนิ่มจริงๆ อย่างนี้สงสัยต้องทำให้งอนปล่อยๆจะได้ง้อบ่อยๆแล้วมั้ง
“ต่อไปผมจะไม่งอนซีวอนแล้ว”คยูฮยอนจับแก้มใสของตัวเองที่โดนหอมเป็นการง้อ เฮ้องอนแล้วโดนหอมอย่างนี้โดนเอาเปรียบกันชัดๆเลย
“แต่ถึงคยูฮยอนไม่งอน ชั้นก็จะหอมอยู่ดี” ไม่ว่าเปล่าท่านประธานคนเก่งก็จัดการหอมแก้มอีกข้างทันที เป็นผลให้คนตัวบางนั่งหน้าแดงต่อไป อย่างนี้งอนกับไม่งอนจะต่างกันอย่างไร แล้วเสียงหวานกับเสียงทุ้มก็ทะเลาะกันไปตลอดเส้นทาง แต่เสียงที่เปล่งออกมานี้สลับกับเสียงหัวเราะที่ทำให้คนทั้งคู่มีความสุขไปสุดเส้นทางเช่นกัน
โลกต่อจากนี้จะมีคนที่ทำให้ เชว ซีวอน ที่ต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว มีคนมาสร้างรอยยิ้มให้ได้แล้ว
โลกต่อจากนี้จะมีคนที่ทำให้ โจ คยูฮยอน ที่ต้องทำงานกับคนมากมาย แต่จะมีคนคอยปกป้องและเป็นพระอาทิตย์ที่สดใสให้
โลกของคนทั้งคู่ต่อจากนี้จะไปด้วยกัน จะสร้างให้โลกของทั้งคู่เติมเต็มให้กันและกันต่อไป
The End
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น